น้ำมันปลาประโยชน์มากมาย สิ่งดี ๆ ที่ทุกท่านไม่ควรมองข้าม!

หากพูดถึงน้ำมันเชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ ท่านมักจะหลีกเลี่ยงในการรับประทาน เนื่องจากน้ำมันเป็นไขมันที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงโรคมะเร็งด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ในความเป็นจริง คือ ไขมันจะมีทั้งชนิดที่ดีและไม่ดี ซึ่งการรับประทานไขมันดีอย่าง “น้ำมันปลา” ในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการกำจัดไขมันไม่ดีในร่างกายได้แล้ว ยังมาพร้อมกับคุณประโยชน์ต่าง ๆ อีกมากมาย 

ห้ามพลาด! ประโยชน์ของน้ำมันปลา มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

โดยน้ำมันปลาจะได้รับการสกัดมาจากส่วนประกอบต่าง ๆ ของปลา แต่ปลาที่จะนำมาสกัดได้นั้นจะต้องเป็นปลาที่มีไขมันสูง และเติบโตในแหล่งทะเลน้ำลึกและน้ำเย็นเท่านั้น หากใครได้ลองรับประทาน รับรองได้เลยว่าจะได้รับประโยชน์มากมายแน่นอน

• ช่วยให้มีกระดูกและสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น: ในน้ำมันปลาจะไม่ได้มีเพียงแคลเซียม วิตามินดี หรือแมกนีเซียมที่จะเป็นสารอาหารสำคัญ แถมยังมีคุณสมบัติช่วยในการรักษาความหนาแน่นของกระดูกเอาไว้ได้เป็นอย่างดี และยังมีกรดไขมัน โอเมก้า-3 ชนิดดีเอชเอ ที่จะเป็นหนึ่งในสารอาหารจำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงด้วยเช่นกัน
• ช่วยเสริมสร้างสมองและความจำ: ด้วยความที่น้ำมันปลามีกรดไขมันดีเอชเอ ที่จะเป็นสารอาหารในการบำรุงสมองชั้นดี อีกทั้งยังช่วยให้สมองสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของความจำ ในด้านการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท รวมไปถึงระบบสมองและการมองเห็นอีกด้วย
• น้ำมันปลาช่วยชะลอวัย: ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า กรดไขมันโอเมก้า-3 ในน้ำมันปลา ไม่ว่าจะเป็นกรดไขมันอีพีเอ หรือกรดไขมันดีเอชเอ ล้วนมีส่วนช่วยในเรื่องของการต้านการอักเสบภายในร่างกาย และการอักเสบภายในร่างกายจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ร่างกายเสื่อมถอยได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นน้ำมันปลาจึงเข้าไปช่วยในการชะลอวัยได้นั่นเอง
• ช่วยบรรเทาโรคกระดูกและข้อกระดูกอักเสบ: จากผลการวิจัยและการทดลอง ได้พบว่าน้ำมันปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 จะสามารถบรรเทาอาการของโรคกระดูกและข้อกระดูกอักเสบได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากผลการทดลองในหนูตะเภาจะสามารถรักษาโรคได้ถึง 50% เลยทีเดียว

ทุกท่านจะเห็นได้ชัดเลยว่า น้ำมันปลาเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้หลาย ๆ ท่านก็ยังเข้าใจผิดว่าน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาเป็นชนิดเดียวกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นหากใครต้องการรับประทานน้ำมันปลาแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่พอดี เพื่อที่จะไม่เปลี่ยนประโยชน์ให้เป็นโทษต่อร่างกายนั่นเอง