บีทรูทถือเป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้หลาย ๆ ท่านก็อาจจะยังไม่รู้จักกับบีมรูทเท่าไหร่นัก เนื่องจากหาซื้อได้ค่อนข้างยากในประเทศไทย อีกทั้งยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้จะต้องบอกก่อนเลยว่าบีทรูทมีประโยชน์สูงเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วบีทรูทจะมีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน และจะมีลักษณะทรงกลมป้อม ๆ เนื้อของบีทรูทจะมีความอวบน้ำ และเป็นสีแดงเลือดหมูหรือสีม่วงแดง และสีเหลือง โดยหัวพืชจะเป็นรากที่สะสมอาหารอยู่ในใต้ดินนั่นเอง
ประโยชน์ของบีทรูทที่ทุกท่านอาจจะยังไม่รู้จัก
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า บีทรูทเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ทั้งนี้ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเป็นอย่างมาก เพราะบีทรูทจะให้ทั้งพลังงาน วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม โพแทสเซียม และอื่น ๆ อีกมากมาย และนอกจากนี้บีทรูทยังมาพร้อมกับคุณประโยชน์อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
- ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคตับ: บีทรูทจะมีสรรพคุณช่วยในการบำรุงตับ และยังส่งเสริมการทำงานของตับให้ดีขึ้น อีกทั้งในบีทรูทยังมีสารบีทานินที่จะช่วยป้องกันการสะสมไขมันในตับ ป้องกันตับจากสารพิษอีกด้วย ซึ่งจากผลวิจัยได้มีการชี้ว่า การรับประทานบีทรูทเป็นประจำยังช่วยลดระดับไขมันของผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับได้อีกด้วย
- ช่วยกระตุ้นสมอง: ต้องบอกเลยว่าน้ำบีทรูทมีปริมาณไนเตรตสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นในร่างกายได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมออกซิเจนได้มากขึ้นอีกด้วย ทั้งยังช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง ป้องกันการเกิดสมองเสื่อม ช่วยให้สมองได้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ช่วยให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ลดลง: ทุกท่านทราบหรือไม่ว่าในบีทรูทจะมีสารไนตริกออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น แถมยังสามารถลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ลงได้อีกด้วย
และนอกจากประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว บีทรูทยังมาพร้อมกับประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย แต่หากคุณรับประทานบีทรูทที่มากเกินไปก็จะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน อย่างเช่น อาจจะทำให้ปัสสาวะมีสีแดงได้ และถึงแม้ว่าบีทรูทจะมีแคลเซียมออกซาเลตสูง แต่หากคุณรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะก่อให้เกิดนิ่วในไตได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นคุณจะต้องรับประทานในปริมาณที่พอดี เพื่อที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายได้มากที่สุด
